Thursday, 23 March 2023

ความคืบหน้าลิขสิทธิ์ บอลโลก 2022 ยังไร้วี่แววจากฟีฟ่า ภายใน 6 วันจะชี้เป็นชี้ตาย

ความก้าวหน้าลิขสิทธิ์ บอลโลก 2022 ยังไร้วี่แววจากฟีฟ่า ภายใน 6 วันจะชี้เป็นชี้ตาย หลังจากผู้ว่า กกท. ติดต่อไปยังฟีฟ่า ขอลดค่าลิขสิทธิ์ลงก็ยังไร้วี่แววในการตอบกลับและยืนยันว่า ภายใน 6 วันหลังจากนี้เป็นต้นไปจะตัดสินทุกเรื่อง

บอลโลก

ความก้าวหน้าการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด บอลโลก 2022 รอบสุดท้าย

ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน-18 ธันวาคมนี้ หลังจาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ลงความเห็นอนุมัติเงินสนับสนุนจาก กองทุนวิจัย และพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อ
ประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) ให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) เพื่อถ่ายทอดสดบอลโลก 2022 ในกรอบวงเงิน600ล้านบาท จากจำนวนเต็มที่กกท.เสนอขอรับการสนับสนุนไป1,600ล้านบาท ทำให้กกท.ต้องหาภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนอีก1,000ล้านบาทนั้น

ปัจจุบัน “บิ๊กก้อง”ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท.เผยออกมาว่าในตอนนี้ กกท.ก็ยังคอยคำตอบจากทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ผ่านทางเอเย่นต์ที่ติดต่อประสานงานกันมาอยู่ซึ่งกกท. ได้ส่งอีเมล ขอลดไปอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่11พ.ย.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เพราะมีความเห็นว่าราคาที่ฟีฟ่าเสนอมา ยังแพงเกินไป

แต่ว่าวันที่ 13 พ.ย. 2565 ทางเอเย่นต์ฟีฟ่า ก็ยังไม่ได้มีการตอบรับกลับมาแต่อย่างใดทั้งนี้แม้ยังไม่มีการตอบกลับกลับมา วันที่ 14 พ.ย. ก็จะทำหนังสือส่งเข้าไปอีกครั้งเพราะเวลากระชั้นเข้ามามาก ๆ แล้วผู้ว่าการกกท. กล่าวต่อว่า ส่วนข่าวจะมีการใช้เงินจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ 600 ล้านบาท เพื่อนำไปสมทบค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลโลกคราวนี้ ในเรื่องนี้ ต้องชะลอเอาไว้ก่อน ต้องหารือกันภายในบอร์ดกองทุนฯ และรอดูท่าทีของฟีฟ่าอีกครั้งด้วย ว่าจะขายลิขสิทธิ์เท่าไร

เวลาเดียวกัน นอกเหนือจากเอกชน 5 รายที่ กกท. ได้ติดต่อประสานงานเพื่อให้ช่วยสนับสนุนถ่ายทอดสดแล้ว ในตอนนี้ กกท. ก็ยังเดินหน้าหาสปอนเซอร์เพิ่มเติมอีกอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่ใช่แค่เพียงแค่ค่าลิขสิทธิ์ ที่จำต้องจ่าย แม้ได้ถ่ายทอด ยังมีค่าภาษี การตั้งศูนย์ถ่ายทอดสด ค่ารับสัญญาณดาวเทียม ค่าเช่าเวลาสถานี เพิ่มมาอีกด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ แนวทางที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำเสนอ จะขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมวันที่ 15 พ.ย. เพื่อขอยืมเงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มาสมทบในการไปซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก 2022 ก่อน แล้วนำเงินจากภาคเอกชนที่หามาได้หลังจากนี้ มาคืนให้กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาตินั้น เป็นเพียงแนวคิดก่อนหน้านี้

ซึ่ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ไม่เห็นด้วย ด้วยเหตุนี้ในการประชุม ครม. วันที่ 15 พ.ย. จะไม่มีการนำเรื่องนี้เสนอต่อที่ประชุม ครม. ส่วนความก้าวหน้าการพูดจาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลโลก วันที่ 13 พ.ย. ยังปราศจากความแจ่มแจ้ง เพราะฟีฟ่า ยังไม่ตอบกลับมาว่า จะยอมลดให้กับประเทศไทยได้เท่าไร จำต้องคอยจนถึงวันที่ 14 พ.ย.

ทั้งนี้เรื่องที่กังวลอีกประเด็น ในระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย. เป็นวันหยุดในโอกาสไทยเป็นเจ้าภาพประชุมสัปดาห์
ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอีก ก็เลยทำให้เป็นปัญหาในการปฏิบัติงาน ในเวลานั้นผู้ที่กลุ้มใจที่สุดคือ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ที่จำต้องเร่งสะสางเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลโลก 2022 ให้จบด้วยดี และเร็วที่สุด

ลิขสิทธิ์บอลโลก 2022

โดยวันที่ 14 พ.ย. สำนักอัยการสูงสุด จะเชิญฝ่ายกฎหมายของ กกท.

ไปพูดคุยทำความเข้าใจเรื่องข้อกฎหมายทุกหัวข้อ เวลาเดียวกัน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ต้องไปเซ็นเอ็มโอยู กับ กสทช. หลังจากที่ กสทช. อนุมัติงบจาก กองทุนกทปส. ให้ 600 ล้านบาทก่อนหน้านี้

รายงานข่าวยังเจาะจงอีกว่า ในเวลานั้นมีเงิน 600ล้านบาทจาก กสทช.และ400ล้านบาทจาก3บริษัทเอกชนสนับสนุนเพิ่มเติมให้ยกตัวอย่างเช่น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน), บริษัทไทยเบฟเวอเรจจํากัด (มหาชน),บริษัทปตท.จำกัด(มหาชน) ส่วนอีก 2 บริษัท

ยกตัวอย่างเช่น บริษัทเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์กรุ้ปจํากัด(มหาชน)และบริษัทปตท.สำรวจผลิตปิโตรเลียมจำกัด(มหาชน) (ปตท.สผ.) นั้นทางกกท.ส่งหนังสือขอรับการผลักดันเข้าไป เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แต่ว่าติดวันเสาร์ และอาทิตย์ ก็เลยยังไม่มีการตอบกลับมา ในตอนนี้ แม้รวมเงินจาก กสทช. 600 ล้านบาท และเอกชน ที่คาดว่าจะสนับสนุน ราว 400 ล้านบาท กกท. จะมีเงินอยู่ราว 1,000 ล้านบาท

ซึ่งในส่วนของท่าทีของฟีฟ่าก่อนหน้านี้เป็นไม่ยอมลดให้เหลือ30ล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 1,140ล้านบาทโดยบอกมาว่า ถ้าหากเราจะซื้อในราคาที่ถูกกว่า 38ล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 1,444 ล้านบาทเราต้องซื้อเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ในเวลานั้นฟีฟ่า ยืนกรานว่า ไม่ยอมขายแพ็กเกจย่อย คือ ซื้อสิทธิ์ตั้งแต่รอบ 2 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้ายให้ไทย บังคับให้ซื้อฟูลแพ็กเกจ 64 แมตช์แค่นั้น แต่ว่ากกท.ก็ได้แสดงสิ่งที่จำเป็น ขอลดเข้าไปอีก

ซึ่งถึงเวลานี้ ฟีฟ่า ยังนิ่งไม่มีการตอบอีเมลกลับมาอะไร คงจำต้องรอดูในวันที่ 14 พ.ย.อีกครั้ง รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในส่วนของขั้นตอนที่ฟีฟ่า กำหนดและขีดเส้นตายเอาไว้ แม้เลือกที่จะซื้อลิขสิทธิ์ ภายในวันที่ 18 พ.ย. 2565 ไทยเราจำต้องปิดดีลกับฟีฟ่าให้เสร็จว่า จะซื้อในราคาเท่าไร ต่อจากนั้นวันที่ 19 พ.ย. ก่อนเตะครั้งแรกบอลโลก 2022 ไทยต้องโอนเงินทั้งหมดไปให้ฟีฟ่า พร้อมภาษี 15 เปอร์เซ็นต์ ให้เรียบร้อยแล้ว